เปิดตัว “e-lane” ทางเดินผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่จีน
หากผู้อ่านได้ติดตามข่าวสากล จริงๆแล้วประเทศจีนไม่ได้เป็นประเทศแรกที่ริเริ่มทางเดินผู้ใช้สมาร์ทโฟนแต่ เป็นประเทศอเมริกาที่รัฐวอชิงตันดีซีนั้นเอง—18th Street, Washington D.C. ที่เปิดใช้เป็นทางการกรกฎาคม 2014 ที่ผ่านมา
ทางเดินผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่รัฐวอชิงตันดีซีนั้นทูกสร้างขึ้นมาเพื่อการ ทดลองสังเกตการณ์พฤติกรรมฝูงชนโดยรายการทีวีเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกนั้นเอง
ทั้งนี้การสร้างทางเดินได้ยกประเด็นคำถามสำคัญๆขึ้นเช่น-ผู้ใช้สมาร์ทโฟน ที่เดิมใจลอยอยู่แล้วจะสามารถเดินภายในขอบเขตที่กำหนดได้ไหม? ผู้ใช้ทางเดินจะเดินชนกันเองหรือสิ่งกีดขวางไหม? หรือแม้กระทั้งว่าผู้ใช้ทางเดินสมาร์ทโฟนนั้นจะรู้หรือไม่ว่ามีทางเดินนี้ อยู่เมื่อแต่ล่ะคนนั้นมัวแต่จ้องจอ LCD บนสมาร์ทโฟนของตนเอง
ทั้งนี้ผู้สังเกตการณ์การทดลองนั้นได้มีความคิดเห็นว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ นั้นไม่ได้รับรู้ว่ามีทางเดินพิเศษสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามชาวโลกอาจต้องจับตามองต่อไปว่าทางเดินสมาร์ทโฟนนั้น สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ไหม
ทั้งนี้ทั้งนั้นการริเริ่มทางเดินสมาร์ทโฟนได้สร้างความรับรู้ต่อปัญหา สังคมของการใช้สมาร์ทโฟนแบบไร้ความรับผิดชอบ ซึ้ง ในการวิจัยที่มหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอที่สหรัฐอเมริกาในปี 2013นั้นได้เผยว่าการใช้สมาร์ทโฟนระหว่างเดินบนท้องถนนหรือที่เรียกกันว่า “distracted walking” เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุและการเสียชีวิตของ 1,506 คนในปี 2010 จากเดิมที่มีผู้ได้รับอุบัติเหตุแค่ 256 ราย ในปี 2005 การวิจัยได้ข้นพบอีกว่าการใช้สมาร์ทโฟนระหว่างเดินบนถนนนั้นมักจะเป็นพฤติกร รมวัยรุ้นที่มักเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุนั้นเอง
ทางแก้ไขนั้นอาจไม่ได้ตรงไปตรงมาอย่างที่ทุกคนคิด ทางมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ลองใช้วิธีติดป้ายแจ้งเตือนทั่ววิทยาเขต และในคณะเดียวกันการขนส่งรัฐยูทาห์ ได้ลองใช้วิธีติดป้ายปรับ $50 สำหรับผู้โดยสารที่ใช้สมาร์ทโฟนแบบขาดสติไกล้ๆลางรถไฟ
ทั้งนี้การริเริ่มทางเดิน “e-lane” สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนนั้นอาจไม่ใช่คำตอบที่สังคมต้องการ คำตอบกับปัญหานี้อาจเป็นการใช้”Smart Watch” แทนสมาร์ทโฟนก็เป็นได้ แทนที่ผู้ใช้จะต้องมองจอมือถือเจ้าตัว Smart watch อาจสั่นเตือนเมื่อมีไลน์หรือข้อความถึงผู้ใช้ ผู้ใช้จะได้ไม่ก้มลงมองโทรศัพระหว่างขับรถ เดิน หรือกิจกรรมอืนๆ ทั้งนี้โลกเราก็ต้องติดตามดูตอนต่อไปของการวิวัฒนาการของ smart watch ว่าจะแก้ปัญหาให้ชาวโลกได้ หรือ ไม่ อาจจะเพื่อรับมือกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่กำลังจะออกมาเร็วๆ นี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น